DVR (Digital Video Recorder) เป็นระบบบันทึกสัญญาณภาพที่ใช้กับกล้องวงจรปิดระบบ analog ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนามารองรับเป็น 5 ระบบ คือ ระบบ Analog ระบบAHD ระบบHDCVI ระบบHDTVI และสุดท้ายคือระบบ IP ซึ่งสามารถรวมกันได้ทั้ง5 ระบบในเครื่องเดียวกัน
HD-CVI ถือกำเนิดจากเมืองจีนในปี 2012 ภายไต้ชื่อ Dahua คือผู้คิดค้นระบบ HD CVI (High Definition Composite Video Interface) โดยจะใช้สาย RG6/U และจะให้ภาพที่มีความคมชัดสูงในระดับ MagaPixel สามารถที่จะใช้ความยาวของสาย มากกว่า 500 เมตร
HD-TVI ถือกำเนิดจากอเมริกันหุบเขาซิลิกอนวัลเล่ย์ ชื่อ Techpoint ซึ่งบุคลากรส่วนใหญ่มากจาก TechWell เป็นผู้ผลิตชิพเจ้าใหญ่ที่สุดของโลกที่ผลิต Chip DVR ส่งให้ตลาดทั่วโลก ด้วยความที่มีประสบการณ์ Techpoint จึงได้รับอานิสงค์นี้มาด้วย และเมื่อความคมชัดที่ 960H และ IP Cameras ไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้า และ ภาพก็กระตุก ซึ่งด้วยข้อจำกัดของระบบ Network ดังนั้นระบบ Analog ที่เดินด้วยสาย RG6/U ที่มีความคมชัดสูงจึงเกิดขึ้นโดย Techpointและได้ชื่อว่า HD-TVI (High Definition Transport Video Interface) และจะมี chipset ที่รองรับ FullHD video720P/1080P
AHD ถือกำเนิดจากเมืองเกาหลีหรือที่เรียกอีกชื่อคือแดนโสมเกาหลี สายเลือด Nextchip กำเนิดขึ้นเมื่อปี 2013 ในนาม AHD (Analogue High Definition)
คุณสมบัติทั่วไปของกล้องทั้ง3ระบบ
CVI, TVI, AHD เป็นระบบที่ใช้ chipset Progressive-Scan แบบ HD Analogue ที่วิ่งบนสาย RG6/Uหรือ coaxial จะเข้ามาแทนที่ระบบกล้องวงจรปิดรูปแบบเดิม และการติดตั้งก็ยังเหมือนเดิมกับที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดระบบ Analog ทุกอย่างโดยใช้สายRG6/U และสามารถใช้แทนระบบเก่าได้เลย ระบบ HD-SDI, CVI, TVI, AHD จะมีการลดทอนสัญญาณจะต่ำมาก ซึ่งไม่มีการหน่วงของสัญญาณหรือการกระตุกของภาพเลย
ข้อแตกต่างระหว่างกล้องทั้ง 3 เทคโนโลยี
กล้องทั้ง3 ระบบไม่ว่าจะเป็นระบบ CVI, TVI, AHD ได้กล่าวไว้ว่า จะทำให้รองรับ ระบบเก่าใช้งานได้ทั้ง 960H และ D1 ได้สมบูรณ์แบบ และในตอนนี้ในตลาดก็ได้พัฒนาระบบ TVI AHD และ CVI ที่สามารถใช้กล้องผสมกันได้แต่ละความละเอียดได้ แต่ละความละเอียดขึ้นอยู่กับความละเอียดของกล้องแต่ละชนิด
AHD ปัจจุบันมี AHD1.0 MP AHD1.3 MP และAHD2.0 MP จึงทำให้บางโรงงานแยกสินค้าออกเป็นสามส่วน และตอนนี้เองก็รองรับกล้องที่เป็น Analog ได้ด้วย
TVI นำเอาเทคโนโลยีของระบบ Analog ใส่เข้าไปใน Chipset จึงทำให้การทำงานของเครื่องบันทึกกับกล้องที่เป็นทั้งระบบTVI กับ Analog ทำงานร่วมกันได้ดี และราคาเครื่องบันทึกระบบ TVI ไม่สูงมากถ้าเทียบกับราคาของเครื่องบันทึก 960Hดังนั้นกล้อง Analog จะถูกแทนที่ด้วยระบบนี้ในไม่ช้า โดยสามารถรวมระบบเก่าได้เรียกว่า Hybrid DVR(960H+720P+1080P)
CVI เริ่มต้นมากจากองค์กรหนึ่งเป็นผู้ผลิตและเป็นผู้ออกแบบคิดค้น Chipset และเป็นผู้กำหนดมาตรฐานของ CVI ทางผู้ผลิตเองจะเป็นผู้กำหนดทิศทางแต่ผู้เดียวคล้ายๆ กับตลาดผูกขาด ซึ่งอาจจะไม่เป็นผลดีกับตลาดโดยรวมส่วน TVI และ AHD เป็น Chipset ที่เป็นแบบเปิดไม่ได้คิดค้นจากโรงงานใดโรงงานหนึ่งที่ทำ DVR ทำเฉพาะ Chipset และขายให้กับโรงงานผู้ผลิตต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นตลาดยังเป็นการแข่งขันสมบูรณ์อยู่
DVR Stand alone ระบบ 5 in 1 มีข้อดี คือ
1.คือราคาถูกกว่า การดูแลรักษาก็ง่าย ข้อมูลส่งมาเก็บไว้ที่ ฮาร์ดดิสค์โดยตรง ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลได้เยอะ ตามฮาร์ดดิสค์ที่เราใช้ เช่น 1TB 2TB ไม่ขึ้นตรงกับสัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือสัญญาณไวร์เรส
2.สายที่ใช้เดิน RG6 ถูกกว่า UTP มาก
ข้อเสีย
1.คือการติดตั้งกล้องวงจรปิดต้องเดินสายเกะกะ ต้องร้อยท่อ หากต้องการความสวยงาม
2. ดูกล้องผ่านเครือข่ายเน็ตเวิร์ค ผ่านกล้องแต่ละตัวโดยตรงไม่ได้ ต้องดูผ่าน DVR ทั้งหมดพร้อมกันทุกกล้อง เพราะค่า IP อยู่ที่เครื่อง DVR
หมายเหตุ: DVR ทุกวันนี้ก็พัฒนา ให้รองรับระบบเน็ตเวิร์คได้ดีขึ้นเยอะ รองรับการดูออนไลน์ผ่านเน็ตได้ ผ่านมือถือได้หลายระบบ เช่น iphone iPAD, symbian, android, windows mobile
NVR (Network Video Recorder) เป็นระบบบันทึกสัญญาณภาพที่ใช้กับกล้องแบบ IP ซึ่งในกรณีที่ดูภาพ ณ เวลาปัจจุบัน (Live View) และภาพย้อนหลัง (Playback) ถ้าใช้กล้องแบบ IP จะสามารถดูภาพได้จากกล้องโดยตรง หรือผ่านทาง NVR ก็ได้ รวมถึงสามารถรวมภาพจากระบบบันทึกหลายตัว มาอยู่ในมุมมองเดียวกันได้ เช่นNVR 1 ตัว อาจจะบันทึกภาพได้ 16 กล้อง ถ้ามีกล้องมากกว่านั้น ก็อาจจะมี NVR หลายๆ ตัว และสามารถนำภาพทั้งหมดมารวมกันดูในหน้าจอเดียวได้ ผ่านทางระบบการจัดการรวม (Central Management Systems - CMS)
ในการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่เป็นแบบ IP อาจจะมีราคาสูงกว่ากล้องแบบ Analog แต่ถ้ารวมค่าติดตั้ง ค่าเดินสายสัญญาณ ค่าเครื่องบันทึก และประโยชน์จากการใช้งาน อาจจะทำให้กล้อง IP มีราคาสูงกว่าระบบ AHD ถึง3 เท่าแต่ข้อเสียของเครื่องบันทึกระบบ AHD ก้อมีเพราะถ้าเครื่องบันทึกในระบบ DVR เสีย จะไม่สามารถดูภาพอะไรได้เลยเนื่องจากไม่สามารถดูภาพจากกล้องได้โดยตรง
แต่ถ้าเป็นระบบ IP จะสามารถดุภาพจากกล้องได้โดยตรง ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และ web browser NVR ใช้กับกล้อง IP Camera ซึ่งก็มีสองแบบ คือแบบเดินสาย UTP กับแบบไร้สาย (Wireless ip camera)
ข้อเสีย
1.แบบใช้สาย UTP สายราคาค่อนข้างแพง
2.แบบไร้สาย IP cam อาจมีปัญหากับการเก็บข้อมูลภาพได้ ถ้าสัญญาณไวร์เลสล้ม เพราะ storage ในการเก็บข้อมูลในตัวกล้องมีพื้นที่น้อย จะต้องส่งภาพมาเก็บไว้ที่ NVR หรือ server ส่วนกลาง ผ่านสัญญาณไวร์เลส ที่เราใช้งานอยู่
3.กล้อง ip cam ราคาค่อนข้างแพง
ข้อดี
1.แบบไร้สาย ไม่ต้องเดินสายให้เกะกะ เหมาะกับสถานที่ ที่ไม่เหมาะที่จะเดินสาย เช่น ข้ามตึกไปอีกฝากถนนหนึ่ง
2.ดูกล้องผ่านเครือข่ายเน็ตเวิร์คแต่ละกล้องได้โดยตรง เพราะกล้องมีค่า ip เป็นของตัวเองแต่ละกล้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น